หน้าหลัก
เบื้องหลักการถ่ายทำ
 
          การเคลื่อนพังของมวลดินมีลักษณะคล้ายกับการเคลื่อนของวัตถุบนผิวฝืด (Friction surface) ดังแสดงในรูปที่ 2
รูปที่ 2 การเคลื่อนตัวและแรงต้านทาน
          ถ้าเราต้องการดึงหรือดันให้วัตถุบนผิวฝืดในรูปที่ 2 ก. ให้เคลื่อนไปจะต้องใช้แรงดึงในแนวราบ (H) จะต้องใช้แรงอย่างน้อยเท่ากับสัมประสิทธิ์ความเสียดทาน (µ) คูณด้วยแรงกดตั้งฉากผิว (N)
H = µN ( 1 )
          แต่ในมวลดินการที่จะเฉือนมวลดิน 2 ส่วนออกจากกัน นอกจากแรงในสมการที่ 1 แล้ว ยังต้องมีแรงเกิดจากความเหนียวของมวลดิน (Cohesive Force), C เกิดจากแรงยึดเหนี่ยวระหว่างเม็ดดินขนาดเล็ก เช่น ดินเหนียว (Clay) แต่จะไม่เกิดขึ้นใน Cohesionless Soil เช่น ทราย กรวด หิน เพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นแรงเฉือนจึงต้องมีอย่างน้อยเท่ากับสมการที่ 2
H = C + µN ( 2 )
          ถ้าเราจะเปลี่ยนสมการที่ 2 ไปในรูปของความเข้มของแรง (Stress) โดยเอาพื้นที่ผิวเฉือน (Shearing Area) ไปหารสมการที่ 2 ก็จะได้
( 3)
= Shearing strength = H/A
  c = Cohesion = C/A
  = Normal stress = N/A
  tan = µ= Coefficient of international friction
          สมการที่ 3 เป็นสมการที่สำคัญในเรื่องความแข็งแรงของมวลดิน เรียกว่า “Mohr – Coulomb’s Equation” ดินแต่ละตัวอย่างจะมีค่าของ c และ แตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละค่าบ่งถึงความแข็งแรงของมวลดินนั้น ๆ เรียกว่า “Strength parameters” ตัวอย่างค่า c และ ของดินบางชนิดได้แสดงไว้ ในตารางที่ 1
ตารางที่ 1 ค่า Strength Parameters ของดินบางชนิด
ลักษณะของดิน Cohesion, ksc. Angle of Internal Friction, Ø° หมายเหตุ
Soft Bangkok Clay
0.05 – 0.15
0 – 10°
Undrained Strength
Soft Bangkhen Clay
0.06 – 0.13
0 – 22°
Undrained Strength
Ottawa Sand
0.0
25 – 40°
Depend on Void Ratio
Gravel
0.0
35 – 50°
Depend on Void Ratio
เมนูหลักแบบทดสอบก่อนเรียนบทนำทฤษฎีเครื่องมือและอุปกรณ์วิธีการทดลองการคำนวณผลการทดลองแบบทดสอบหลังเรียน 
เชิดพันธุ์ อมรกุล และ ผศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์
ศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก  ภาควิชาวิศวกรรมโยธา   คณะวิศวกรรมศาสตร์   มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์